มาทำความรู้จักลักษณะนิสัยของแมวแร็กดอล

สำหรับแมวสายพันธุ์ แร็กดอล เป็นแมวสายพันธุ์ใหญ่ ที่มีขนปุกปุยน่ากอด เป็นแมวที่มีความน่ารักอยู่ในตัว หากสนใจในแมวสายพันธุ์นี้อยู่ล่ะก็ ลองมาทำความรู้จักกับแมวแร็กดอลกันให้มากขึ้น

ลักษณะของแมวแร็กดอล

แมวแร็กดอลมีหัวที่ค่อนข้างกว้าง หัวด้านบนแบน หูตั้งห่างกันทั้งสองข้าง มีดวงตากลมโตสีฟ้า ลำตัวยาว ขาตรง คอสั้น กล้ามอกกว้าง มีอุ้งมือที่ค่อนข้างกลมและใหญ่ ตามซอกนิ้วจะมีขนแซม มีหางที่ยาวเป็นพวง เป็นแมวที่มีขนหนา ขนมีความละเอียดเหมือนกับเส้นไหม โดยจะมีทั้งที่เป็นขนยาวกลางๆไปจนถึงยาวมาก หากแมวโตเต็มที่ก็จะมีขนขึ้นแน่นฟูที่บริเวณรอบคอและแผงอก เป็นแมวที่มีรูปแบบของสีขนที่แตกต่างกัน 3 รูปแบบ และบางตัวอาจมีแต้มสีขาวบริเวณหู หน้า ขา และหาง

นิสัยของแมวแร็กดอล

เป็นแมวที่รักสงบ ชอบอ้อน มีเสียงร้องเบา เป็นมิตรกับผู้คน เข้ากับเด็กได้เป็นอย่างดี เป็นแมวที่รักความสะอาดชอบดูแลขนด้วยการเลียขน ชอบเดินตามเจ้าของ และชอบนอนกับเจ้าของ เวลาที่แมวแร็กดอลถูกอุ้มก็จะทำตัวอ่อน จึงทำให้หลายคนหลงรักแมวสายพันธุ์นี้

การให้อาหาร

ให้อาหารแมวแบบเม็ดที่สามารถเก็บไว้ได้นาน หรืออาจให้อาหารแมวแบบเปียกเพื่อเป็นการกระตุ้นความอยากอาหาร ถ้าจะให้อาหารแบบทั่วไปก็ควรที่จะเป็นอาหารที่มีประโยชน์ เช่น ไข่ไก่ เนื้อไก่ ปลา อาหารเหล่านี้ต้องปรุงให้สุก ให้โดยไม่ต้องใส่เครื่องปรุงเพิ่ม

การดูแล

  • แมวสายพันธุ์ แร็กดอลมีขนยาวและฟู โดยแมวชอบที่จะเลียทำความสะอาดขน จึงทำให้เกิดก้อนขนได้มาก สำหรับการดูแลขน ผู้เลี้ยงจึงต้องแปรงขนให้กับแมวแร็กดอลสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หากปล่อยทิ้งไว้นานก็จะทำให้ขนเป็นกระจุกได้
  • สำหรับการทำความสะอาดก้น ควรใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรกต่างๆบริเวณก้น
  • ควรอาบน้ำให้กับแมว 2-3 ครั้งต่อเดือน
  • หมั่นดูแลความสะอาดกระบะทรายของแมว เนื่องจากเป็นแมวที่มีขนาดตัวใหญ่และมีขนยาว การทำความสะอาดกระบะทรายก็เพื่อไม่ให้ขนของแมวเลอะ
  • กระบะทรายควรมีขนาดใหญ่พอ เพื่อให้แมวมีพื้นที่ขุดคุ้ยและใช้สำหรับขับถ่าย

ให้แมวออกกำลังบ้าง

ควรมีการกระตุ้นให้แมวได้ออกกำลังกายหรือปลดปล่อยพลังงานบ้าง อาจหาเสาลับเล็บแมวมาไว้ให้แมวได้ออกแรงลับเล็บ เพื่อเป็นการยืดเหยียดกล้ามเนื้อ ทำให้แมวรู้สึกผ่อนคลาย หรือมีคอนโดแมวให้แมวได้ปีนป่ายออกกำลังกายได้

การเลี้ยงแมวไม่ว่าสายพันธุ์ไหน เจ้าของแมวควรจะใส่ใจในเรื่องของการให้อาหาร โดยไม่ควรให้ในปริมาณที่มากเกินจำเป็น เพราะแมวอาจจะเป็นโรคอ้วน และทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน และโรคข้ออักเสบตามมา