เสริมหน้าผาก ถือเป็นที่การศัลกรรมที่นิยมเป็นอย่างมากไม่ว่าจะเพื่อเพิ่มความสวยงามให้ใบหน้า เพิ่มโงวเฮ้ง เปิดดวง ซึ่งในทางการแพทย์ มีด้วยกัน 3 เทคนิค คือ ฉีดฟิลเลอร์ การปลูกถ่ายไขมัน และการเสริมซิลิโคน หากใครกำลังคิดจะทำแต่ไม่รู้ว่าจะเลือกเทคนิคไหนเราจึงนำข้อดีข้อเสียมาให้ดูกัน
ฉีดฟิลเลอร์ เสริมหน้าผาก
การฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดสารไฮยาลูโรนิค เสริมหน้าผากให้โหนกนูนโดยจะมีอายุ 1-2 ปี ก็จะสลายไปเอง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับชนิดฟิลเลอร์ที่ใช้
ข้อดี
- ได้รูปทรงสวยเป็นธรรมชาติ
- ไม่บวมช้ำ (อาจมีเล็กน้อย) ไม่มีแผลเป็น ไม่ต้องพักฟื้น
- เติมเต็มหรือปรับแต่งได้เรื่อย ๆ
- หากไม่ชอบสามารถฉีดสลายฟิลเลอร์ได้
ข้อเสีย
- ต้องฉีดซ้ำบ่อย
- ราคาสูง
- มีความเป็นไปได้ที่ฟิลเลอร์จะไหลหรือเสียรูปทรง หรือมีปัญหาเป็นก้อน
- มีความเสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือดจนไม่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญได้
การปลูกถ่ายไขมันจากร่างกาย
วิธีนี้จะดูดไขมันส่วนเกินในร่างกายมาเติมเต็มหน้าผาก โดยต้องใช้เซลล์ไขมันที่ดีที่สุด เป็นวิธีที่มีความปลอดภัยสูง
ข้อดี
- ได้รูปทรงเป็นธรรมชาติ
- ทำเสร็จกลับบ้านได้เลย
- แผลเล็ก ใช้เวลาพักฟื้นไม่นาน ไม่มีอาการบวมหรือบวมน้อยมาก
- เซลล์ไขมันที่คัดจะมีส่วนผสมของสเต็มเซลล์ ทำให้ผิวให้ดูอวบอิ่มกระจ่างใส
- ช่วยลดไขมันส่วนเกินในบริเวณที่ดูดออกด้วย
ข้อเสีย
- อยู่ได้ไม่คงทนถาวร
- ไม่เหมาะกับคนผอมหรืออายุมาก เพราะไขมันไม่ค่อยมีคุณภาพ
- การคงทนของไขมันขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละคน
- บริเวณที่ดูดไขมันอาจมีการบวมช้ำหรือเป็นคลื่นได้
เสริมหน้าผาก ด้วยซิลิโคน
เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่คงทนมากกว่าวิธีอื่น ๆ สามารถปรับรูปหน้าผากได้ง่าย เพราะสามารถเลือกขนาด และ ปรับแต่งซิลิโคนได้
ข้อดี
- คงรูปได้ถาวร
- ได้รูปทรงสวยเป็นธรรมชาติเข้ากับใบหน้า
- เมื่อทำเสร็จผิวหนังจะมีความเรียบ นูน สวย ไม่เป็นคลื่น
- มีความปลอดภัยสูง
- เมื่อดูระยะเวลาใช้งานถือว่าค่าใช้จ่ายไม่สูง
ข้อเสีย
หากใช้ซิลิโคนไม่เข้ากับใบหน้า อาจดูไม่เป็นธรรมชาติ อีกทั้งเมื่อผ่านไปอาจเห็นขอบซิลิโคนได้ โดยเฉพาะผู้ที่มีเนื้อหน้าผากน้อย
- จะมีรอยแผลจากการผ่าตัดที่บริเวณหนังศีรษะ แต่ผมที่คลุมไว้หากไม่สังเกตจะไม่เห็น
- หลังผ่าตัดอาจทำให้เกิดการบวมได้เช่นเดียวกับการผ่าตัดชนิดอื่น ๆ
- มีความเสี่ยงต่อการอุดตันในเส้นเลือดจนไม่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญได้
จะเห็นได้ว่าการ เสริมหน้าผาก แต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งก็สามารถเลือกได้ตามความชอบและความเหมาะสม สิ่งสำคัญที่สุดควรทำกับคลินิกที่มีมาตรฐาน มีแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญในด้านศัลยกรรม เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาร้ายแรงตามมาโดยเฉพาะการอุดตันในเส้นเลือดจนไม่ไปเลี้ยงอวัยวะสำคัญ หรือการอักเสบอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้