อาการปวดหัวข้างซ้าย มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้าง

อาการปวดหัวสามารถเกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุ และหนึ่งในอาการปวดหัวที่มักจะเป็นกันก็คือปวดหัวข้างซ้าย แล้วอาการปวดลักษณะนี้มีสาเหตุมาจากอะไรได้บ้างลองมาหาคำตอบกัน

อาการปวดหัวข้างซ้าย คืออะไร?

อาการปวดหัวข้างซ้ายสามารถพบได้บ่อย โดยอาจเป็นผลมาจากกล้ามเนื้อมีการเกร็งตัวซึ่งเกิดจากความเครียด บางกรณีอาจเกิดขึ้นได้จากพฤติกรรมการใช้ชีวิต อย่างเช่น การอดนอน ก็ส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวข้างซ้ายได้

อาการปวดหัวข้างซ้าย มีสาเหตุดังนี้

  • ความเครียด สามารถพบได้บ่อยทั้งในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ จะมีอาการปวดหัวเล็กน้อยจนถึงปานกลาง อาการจะเป็นๆหายๆ อาจรู้สึกปวดเหมือนกับมีอะไรมาบีบรัดที่ศรีษะ นอกจากนี้อาจมีอาการปวดที่หัวไหล่และลำคอด้วย
  • ปวดหัวแบบคลัสเตอร์ อาการปวดหัวจะเกิดขึ้นเป็นชุดๆ อย่างรุนแรงและเฉียบพลัน อาการมักจะเป็นติดต่อกันนานหลายเดือน อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์อาจจะปวดหัวเพียงแค่ข้างเดียว แล้วอาจจะสลับมาปวดอีกข้างก็ได้ อาการปวดอาจส่งผลต่อขมับ หน้าผาก จมูก คอ หัวไหล่ และฟัน นอกจากนี้บริเวณกระบอกตาอาจมีอาการปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาอย่างรุนแรงได้ และอาจมีอาการอื่นๆอีก เช่น น้ำมูกไหล คัดจมูก มีเหงื่อออก เป็นต้น
  • ไมเกรน จะมีอาการปวดหัวตุบๆ และอาจมีอาการอื่นๆร่วมด้วย เช่น อาเจียน คลื่นไส้ จมูกไวต่อกลิ่น เป็นต้น
  • พฤติกรรมการใช้ชีวิต สำหรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตก็ส่งผลทำให้มีอาการปวดหัวข้างซ้ายได้ เช่น การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ การอดอาหาร การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น
  • การเจ็บป่วย เช่น ไข้สมองอักเสบ ภูมิแพ้ ไข้หวัดใหญ่ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันโลหิตสูง ต้อหิน เนื้องอกในสมอง เป็นต้น
  • ยาบางชนิด หากใช้ยาบางชนิดติดต่อกันมากกว่า 2-3 วันต่อสัปดาห์ ก็อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ เช่น ยาพาราเซตามอล ยานาพรอกเซน ยาไอบูโพรเฟน เป็นต้น

หากมีอาการปวดหัวข้างซ้าย ควรปฏิบัติตัวอย่างไร

  • ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่ควรนอนดึกจนเกินไป
  • หมั่นออกกำลังกายเป็นประจำ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง และผ่อนคลายความเครียด
  • ดูแลร่างกายโดยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้เป็นปกติ
  • ลองทำกิจกรรมที่ช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย เช่น การฟังเพลง การแช่น้ำอุ่น ออกไปเที่ยวตามที่ต่างๆ เป็นต้น
  • ประคบเย็นและประคบอุ่นที่บริเวณลำคอและศรีษะ
  • สามารถรับประทานยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ตามร้านขายยา เช่น พาราเซตามอล ไอบูโพรเฟน และไม่ควรรับประทานติดต่อกันนานเกิน 2-3 วันต่อสัปดาห์ เพราะอาการปวดอาจแย่ลงได้

หากมีอาการปวดหัวบ่อยครั้งควรหมั่นสังเกตตัวเองว่ามีสิ่งกระตุ้นใดๆที่ทำให้มีอาการปวดหัวบ้างหรือไม่ และหากปวดหัวมากจนกระทบกับการใช้ชีวิต ก็ควรที่จะไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และหาวิธีในการรักษาต่อไป