ทำความรู้จักโรคฝีดาษลิง Clade 1B คืออะไร

เมื่อปี 2022 ทางองค์การอนามัยโลกได้ออกมาประกาศให้โรค “ฝีดาษลิง”เป็นโรคระบาดที่ แต่ความรุนแรงไม่เท่ากับโควิด-19 แต่ล่าสุดทาง WHO ได้ออกมาประกาศให้ฝีดาษลิงเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณะสุขระหว่างประเทศ เนื่องจากแพร่ระบาดหนักสายพันธุ์ใหม่ในทวีปแอฟริกา

ฝีดาษลิง คืออะไร?

ฝีดาษลิง (monkeypox) ชื่อปัจจุบันคือ “โรคเอ็มพอกซ์” (Mpox)คือโรคติดเชื้อที่เกิดจากไวรัส  orthopoxvirus เป็นโรคติดต่อจากสัตว์ตระกูลลิง หรือสัตว์ฟันแทะหลายชนิด เช่น หนู กระรอก กระต่าย เป็นต้น ทั่วไปแล้วมักพบในฝั่งแอฟริกากลาง และตะวันตก โดยปัจจุบันสามารถแบ่งได้ 2 ประเภท ได้แก่  

  • สายพันธุ์ Clade 1 (สายพันธุ์แอฟริกากลาง)
  • สายพันธุ์ Clade 2 (สายพันธุ์แอฟริกาตะวันตก)

ทั้ง 2 สายพันธุ์อาจทำให้เสียชีวิตได้ อย่างไรก็ตาม สายพันธุ์ Clade 1 จะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงกว่า 

ฝีดาษลิง Clade 1B คืออะไร  

ฝีดาษลิงสายพันธุ์ Clade 1 กลายพันธุ์เป็นฝีดาษลิง Clade 1B ซึ่งมีความรุนแรงกว่าเดิม มีอัตราการเสียชีวิตของผู้ที่ติดเชื้อสูงสุดร้อยละ 10 แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว  

ฝีดาษลิง Clade 1B แพร่กระจายอย่างไร 

1.เพศสัมพันธ์  

2.สัมผัสโดยตรงกับ ผื่น ตุ่มหนอง น้ำหนองของผู้ป่วย 

3.สัมผัสสิ่งของปนเปื้อนของผู้ป่วย เช่น ผ้าปูที่นอน เสื้อผ้า พื้นผิวที่ปนเปื้อนด้วยสารคัดหลั่งของผู้ป่วย 

4.ละอองฝอยทางการหายใจ เช่น ไอ จาม หรือการพูดคุยกับผู้ป่วยในระยะ 1 เมตร 

5.การสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์ที่ติดเชื้อ เช่น ลิง หนู และกระรอก 

อาการของฝีดาษลิง Clade 1B 

สังเกตอาการของฝีดาษลิง Clade 1B คล้ายคลึงกับสายพันธุ์อื่นๆ โดยทั่วไปจะเริ่มมีอาการแสดงใน 5-21 หลังจากสัมผัสเชื้อ และอาการที่พบได้บ่อยมีดังนี้ 

1.มีไข้ อ่อนเพลีย  

2.ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 

3.อ่อนเพลีย ไม่มีแรง 

4.ต่อมน้ำเหลืองโต โดยเฉพาะบริเวณรักแร้ คอ และขาหนีบ 

5.มีตุ่มเล็กๆสีแดง แล้วเปลี่ยนเป็นตุ่มน้ำใส หรือตุ่มหนอง บนผิวหนัง  

6.บางรายอาจมีอาการท้องเสีย อาเจียน ไอ เจ็บคอ เยื่อบุตาอักเสบ 

7.หากมีอาการที่น่าสงสัยเหล่านี้ ควรพบแพทย์ทันที 

วิธีป้องกันจากโรคฝีดาษลิง Clade 1B 

1.หลีกเลี่ยงการสัมผัสสัตว์ป่า หรือผู้มีประวัติมาจากพื้นที่เสี่ยง 

2.ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์ 

3.ห้ามใช้อุปกรณ์ส่วนตัวร่วมกับคนอื่น  

4.ควรสวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ 

5.หากต้องเดินทางไปในประเทศที่มีแพร่ระบาดของเชื้อฝีดาษลิง ควรเลี่ยงการสัมผัสสัตว์กลุ่มฟันแทะ และลิง 

6.ฉีดวัคซีนป้องกันฝีดาษลิง 

โรคฝีดาษลิงสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังแพร่ระบาดนี้ มีอาการคล้ายคลึงกับสายพันธุ์เดิมคือมีตุ่มขึ้นตามตัว ติดต่อกันได้จากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วย แต่อย่างไรก็การติดเชื้อหรือไม่ขึ้นอยู่กับภูมิคุ้มกันในร่างกายของแต่ละคน สามารถรักษาหายได้ ยกเว้นผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือมีโรคแทรกซ้อนอาจเสียชีวิตได้